สหกรณ์ฯ ได้ให้บริการเงินกู้สามัญสวัสดิการคุณภาพชีวิต (สด.) กำหนดวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท โดยเริ่มตั้งแต่ 2 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป
การส่งชำระภายใน 180 งวด โดยชำระเป็นรายเดือนเท่ากันพร้อมดอกเบี้ย หรือส่งคืนเงินกู้เป็นงวดรายเดือนเท่ากันทุกเดือน
กำหนดหลักเกณฑ์การกู้ ดังนี้
หลักฐานและเอกสารที่แนบ ดังนี้
ดอกเบี้ยเงินกู้
สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด จะคิดเอาดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่สอดคล้องกับสภาวะทางการเงินของสหกรณ์ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินกู้ใช้อัตราเดียวทุกประเภท
คือ ร้อยละ 6.75 ต่อปี โดยถือใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2553
หลักเกณฑ์การกู้พิเศษ
1. มี 2 ประเภท คือ เพื่อการสงเคราะห์ และเพื่อการประกอบอาชีพ
2. คุณสมบัติและวงเงินกู้ที่ให้กู้
2.1. เป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
2.2. วงเงินกู้ไม่เกิน
- เพื่อการเคหะสงเคราะห์ สูงสุดไม่เกิน 80 เท่าของเงินเดือน หรือไม่เกิน 5,000,000 บาท สุดแต่จำนวนใดจะน้อยกว่า โดยกำหนดส่งชำระภายใน 300 งวด
- เพื่อการลงทุนประกอบอาชีพ สูงสุดไม่เกิน 80 เท่าของเงินเดือน หรือไม่เกิน 4,000,000 บาท สุดแต่จำนวนใดจะน้อยกว่า โดยกำหนดส่งชำระภายใน 200 งวด
3. หลักประกัน
3.1. โฉนดที่ดิน ( ค้ำประกันได้ไม่เกิน 80% ของราคาประเมิน )
3.2. ให้เพื่อนสมาชิกด้วยกันค้ำประกันไม่ได้
3.3. ราคาประเมิน = ราคาที่ดินรวมกับราคาสิ่งปลูกสร้างหรือราคาที่อยู่อาศัย
3.4. ต้องเป็นโฉนดที่ดินที่ใช้สร้างที่อยู่อาศัย หรือโฉนดที่ดินที่ทำโครงการเพื่อประกอบอาชีพ
4. ขั้นตอนการพิจารณา
4.1. ยื่นคำขอกู้
4.2. คณะกรรมการดำเนินการประชุมพิจารณาอนุมัติจำนวนเงินที่จะให้กู้
4.3. ประเมินหลักประกัน ( สมาชิกผู้กู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย )
4.4. นัดทำสัญญากู้และนิติกรรม จำนองหลักประกัน
หลักเกณฑ์การเงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2554
หลักเกณฑ์การกู้สามัญ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2556
1. เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ปี
2. วงเงินกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาท
3. หลักเกณฑ์การให้เงินกู้สำหรับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด ที่เป็นข้าราชการ
3.1. 45 เท่าของเงินเดือน หรือ 5 เท่าของค่าหุ้น หรืออย่างหนึ่งอย่างใดที่น้อยกว่า
3.2. เงินเดือนคงเหลือสุทธิ ไม่น้อยกว่า 20%
4. หลักเกณฑ์การให้เงินกู้สำหรับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปัตตานี จำกัด ที่เป็นพนักงานราชการและครูโรงเรียนเอกชน
4.1. 45 เท่าของเงินเดือน หรือ 5 เท่าของค่าหุ้น
4.2. เงินเดือนคงเหลือสุทธิ ไม่น้อยกว่า 20%
4.3. พนักงานราชการกู้ได้ไม่เกิน 700,000 บาท รวมทุกสัญญา
4.4. ครูโรงเรียนเอกชนกู้ได้ไม่เกิน 650,000 บาท รวมทุกสัญญา
5. สมาชิกที่มีอายุ 57- 60 ปี กู้ได้ไม่เกิน 70% ของเงินเดือนปัจจุบัน
6. ส่งชำระเงินกู้มาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวดเดือน ถึงจะยื่นกู้ใหม่ได้
7. สมาชิกที่ยื่นกู้ไปแล้ว แต่กู้ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสิทธิการกู้ สามารถยื่นกู้ใหม่ได้ แต่ต้องชำระมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 งวดเดือน
8. เกณฑ์วงเงินกู้
8.1. กู้ได้ไม่เกิน 400,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกัน 2 คน เป็นข้าราชการอย่างน้อย 1 คน
8.2. กู้ได้ไม่เกิน 600,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกัน 3 คน เป็นข้าราชการอย่างน้อย 2 คน
8.3. กู้ได้ไม่เกิน 800,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกัน 4 คน เป็นข้าราชการอย่างน้อย 3 คน
8.4. กู้ได้ไม่เกิน 1,000,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกัน 5 คน เป็นข้าราชการอย่างน้อย 4 คน
8.5. กู้ได้ไม่เกิน 1,500,000 บาท ใช้บุคคลค้ำประกัน 6 คน เป็นข้าราชการอย่างน้อย 5 คน
9. กำหนดให้มีการชำระหนี้ทั้งหมดไม่เกิน 180 งวด
10. กำหนดให้มีการประกันเงินกู้ ดังนี้
10.1. กู้เงินเกิน 1,200,000 บาท ให้สมาชิกผู้กู้ ทำประกันเงินกู้ขั้นต่ำ 300,000 บาท
10.2. กู้เงินไม่เกิน 1,200,000 บาท ให้ใช้ตามหลักเกณฑ์ใหม่ การทำประกันเงินกู้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของสมาชิก
10.3. กรณีสมาชิกทำประกันให้เก็บค่าเบี้ยประกันจากสมาชิกระยะเวลา 3 ปี นำเข้าบัญชีเงินฝากสมาชิกที่สหกรณ์ฯ
11. ไม่อยู่ระหว่างถูกอายัดค่าหุ้นจากเจ้าพนักงานบังคับคดี หรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
12. สมาชิกที่มีความประสงค์ จะนำสิทธิ์ในการเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทย (สสอค.) หรือสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
สมาชิกของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (สส.ชสอ.) มาค้ำประกัน ตามมติคณะกรรมการดำเนินการ คราวประชุมครั้งที่ 5/2557
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป
หมายเหตุ สมาชิกที่ไม่อยู่ในพื้นที่ย้ายออกไปต่างจังหวัด จะยื่นกู้ประเภทใดประเภทหนึ่งไม่ได้
บัตรประจำตัวที่ใช้เป็นหลักฐานประกอบคำขอกู้เงิน
รายได้ที่ใช้คำนวณจำนวนเงินที่จะกู้ได้
เงินได้รายเดือน หมายถึง เงินเดือนและเงินเพิ่มค่าครองชีพหรือเงินที่จ่ายควบกับเงินเดือน หรือค่าจ้างประจำ ยกเว้นเงินเสี่ยงภัย ซึ่งสมาชิกได้รับจากหน่วยงาน
และหมายถึงบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญ
สลิปเงินเดือนที่ใช้เป็นหลักฐานประกอบคำขอกู้เงิน
1. สมาชิกที่สังกัดเขตพื้นที่การศึกษา ให้ใช้สลิปเงินเดือนที่ออกมาจาก สนง.เขตพื้นที่การศึกษาเท่านั้น
2. สมาชิกที่สังกัดหน่วยงานอื่นๆ ให้ใช้สลิปเงินเดือนที่ออกจากต้นสังกัด มีผู้บังคับบัญชารับรอง
3. การรับรองสลิปเงินเดือน
3.1. ผู้อำนวยการ/รองผู้อำนวยการ/ผู้ช่วย สพท.ปน.เขต1สพท.ปน.เขต 2 และสพท.ปน.เขต 3
3.2. เจ้าหน้าที่การเงิน สพท.ปน.เขต 1 สพท.ปน.เขต 2 และ สพท.ปน.เขต 3
3.3. ผู้อำนวยการโรงเรียน /รองผู้อำนวยโรงเรียน /รักษาการ
3.4. ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่สมาชิกสังกัดอยู่นอกจากข้อ 3.1 - 3.3
4. กู้แล้วจะยื่นกู้ครั้งต่อไปต้องชำระมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด ต่ำกว่า 12 งวดพิจารณาเป็นรายๆ ( มีเอกสารแนบความจำเป็น )
5. ชำระคืนไม่เกิน 180 งวด และต้องมีเงินเดือนเหลือหักจากทุกรายการจ่ายแล้ว ไม่น้อยกว่า 20% ของเงินเดือน
6. การค้ำประกัน
6.1. ต้องเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 12 เดือน
6.2. สมาชิก 1 คน ค้ำประกันได้ไม่เกิน 6 สัญญา
6.3. ข้าราชการบำนาญ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ มีสิทธิค้ำประกันเท่าข้าราชการประจำ (ผู้รับเงินบำเหน็จค้ำประกันไม่ได้ )
6.4. สามี ภรรยา ค้ำประกันสัญญาเดียวกันไม่ได้
6.5. คู่สมรสของผู้กู้ ค้ำประกันผู้กู้ไม่ได้
6.6. สมาชิก 1 คน จะค้ำประกันทั้งสามี และภรรยาไม่ได้
7. กรณีใช้หลักทรัพย์ โฉนดที่ดิน ค้ำประกันเงินกู้
7.1. แนบสำเนาโฉนดที่ดิน พร้อมหนังสือรับรองประเมินราคาจาสำนักงานที่ดิน
7.2. คณะกรรมการของสหกรณ์ไปตรวจสอบและประเมิน โดยไปดูจากสถานที่จริง ( ผู้กู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย )
7.3. ค้ำประกันได้ในวงเงินไม่เกิน 80% ของราคาประเมิน
การกู้กรณีพนักงานราชการ/ครูโรงเรียนเอกชน
สมาชิกที่เป็นพนักงานราชการและลูกจ้างประจำโรงเรียนเอกชน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป สามารถยื่นกู้เงินจากสหกรณ์ฯ โดยใช้หลักเกณฑ์การกู้ ดังนี้
1. เป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
2. เงินเดือนคงเหลือสุทธิ ไม่น้อยกว่า 20%
3. พนักงานราชการกู้ได้ 45 เท่าของเงินเดือน หรือ 5 เท่าของค่าหุ้น หรือไม่เกิน 700,000 บาท รวมทุกสัญญา
4. ครูโรงเรียนเอกชนกู้ได้ 45 เท่าของเงินเดือน หรือ 5 เท่าของค่าหุ้นแต่ไม่เกิน 650,000 บาท รวมทุกสัญญา
5. แนบใบรับรองเงินเดือนที่ออกให้โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือโรงเรียน รับรองโดยเจ้าหน้าที่การเงินเขต /ผู้บริหารโรงเรียน ในส่วนที่เป็นข้าราชการ
ให้ใช้บัตรประจำตัวข้าราชการเท่านั้น
หมายเหตุ สมาชิกผู้ค้ำประกันต้องทำหนังสือค้ำประกันให้ไว้ต่อสหกรณ์ตามแบบที่สหกรณ์กำหนด และสมาชิกคนหนึ่งจะเป็นผู้ค้ำประกันผู้กู้มากกว่า 6 ราย ในช่วงเวลาเดียวกันไม่ได้